วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ร้าน “โรงลาบยโสธร”

                หากจะถามหาร้านลาบรสแซ่บ ๆ ใน กทม. คงจะหาได้ไม่ยาก  แต่ถ้าเป็นรสชาติต้นตำหรับอีสานแท้ ๆ คงต้องเป็นร้านนี้เลย  “โรงลาบยโสธร”
โรงลาบยโสธร0
                “โรงลาบยโสธร” ร้านอาหารอีสานรสชาติต้นตำหรับอีสานแท้ ๆ  โดยตลกชื่อดังอย่าง หม่ำ จ๊กม๊ก  เป็นเจ้าของกิจการ  เมื่อมาถึงร้านก็จะสังเกตเห็นป้ายโดยมีรูปคุณหม่ำอยู่หน้าร้านอย่างโดดเด่น  บริเวณร้านสามารถจอดรถได้ประมาณ 20 คัน  และมีพนักงานคอยบริการหาที่จอดรถให้อีกด้วย  ส่วนโต๊ะนั่งมี 2 โซน  คือโซนด้านในร้านตากแอร์เย็น ๆ สไตล์ครอบครัว  ในร้านบรรยากาศดีมาก ตกแต่งสไตล์บ้านๆ เป็นกันเอง แต่แอบแฝงด้วยบรรยากาศชิวๆ เล็กน้อย  และโซนโอเพ่นรับลมเย็นธรรมชาติ   นั่งสบาย ๆ ชิว ๆ  ก็สามารถเลือกนั่งได้ตามสบายเลย
โรงลาบยโสธร1โรงลาบยโสธร2โรงลาบยโสธร3
                ส่วนเรื่องของอาหาร  แน่นอนอยู่แล้วต้องรสแซ่บจัดจ้านตามแบบฉบับของอาหารอีสานแท้ ๆ  เพราะคุณหม่ำเองก็เป็นคนยโสธร  ทางร้านจะเน้นเรื่องอาหารอีสานรสจัด  สไตล์คนอีสานแท้ ๆ  และนอกจากอาหารอีสานแล้วยังมีอาหารไทยและจีนให้บริการอีกด้วย









                ร้าน “โรงลาบยโสธร”  ตั้งอยู่ที่อาคาร ก่อนถึงทางเข้าห้างเดอะมอลล์บางแค ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ  การเดินทาง  ใช้ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) มุ่งหน้าไปทางเดอะมอลล์บางแค ก่อนถึงทางเข้าห้างเดอะมอลล์บางแค จะสังเกตเห็นร้านโรงลาบยโสธร อยู่ทางด้านซ้ายมือ
                เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา  เปิดทุกวัน เวลา 16.00-24.00 น.  เบอร์โทรศัพท์  0895051149 , 024547532

ร้าน "Sirocco"

               ร้านอาหารบรรยากาศโรแมนติกสุดหรู  ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนและแสงดาวที่โอบล้อมต้องร้านนี้เลย  ร้าน “Sirocco” 
Sirocco1
               ร้าน “Sirocco” สถานที่ที่จะทำให้อาหารมื้อค่ำของคุณ สุดแสนโรแมนติกและน่าจดจำ เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวสวยในมุมสูงอันน่าทึ่งของกรุงเทพฯ ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนและแสงดาวที่โอบล้อม อีกทั้งยังมีวงดนตรีแจ๊สที่เล่นกันสด ๆ คอยขับกล่อมให้เคลิบเคลิ้ม  และยังมี Sky Bar บาร์รูปวงกลมที่สามารถเปลี่ยนสีได้ตามจังหวะดนตรีแจ๊ส ตั้งโดดเด่นอยู่ปลายทาง สำหรับจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ อีกด้วย
Sirocco2
               ในส่วนของอาหารเป็นอาหารสไตล์เมดิเตอเรเนียน นุ่มลิ้น น่าลิ้มลองหลากหลายเมนู  และเรื่องรสชาติถือว่าคุ้มราคาแน่นอน






               ร้าน “Sirocco”  ตั้งอยู่ที่ชั้น 63 โรงแรมเลอบัวแอทสเตททาวเวอร์ ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ  เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00 -01.00 น.  เบอร์โทรศัพท์  02-624-9999

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ภูทอก จังหวัดบึงกาฬ

               พูดถึงจังหวัดน้องใหม่อย่างจังหวัดบึงกาฬแล้ว   หลายคนคงอยากจะรู้ว่าจังหวัดนี้มีอะไรสวยงามน่าเที่ยวบ้าง  วันนี้เราจะพาไปเที่ยววัดค่ะ  วัดที่ว่านั้นคือ  "วัดเจติยาศรีวิหาร"  หรือที่แถวนี้รู้จักกันดีว่า  "ภูทอก"

              ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว ภูทอก มี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย  โดยมีพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เป็นผู้ก่อตั้ง  ส่วนที่นักแสวงบุญและ นักท่องเที่ยวทั่วไป สามารถชมได้คือ ภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวชม
Picture
               ในส่วนของวัดเจติยาศรีวิหารจะมีเจดีที่บรรจุเครื่องบริขารพระอาจารย์จวนเอาไว้และสามารถให้นักท่องเที่ยวเข้าไปกราบสักการะได้และในส่วนของภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้น  การก่อสร้างใช้เพียงแรงงานคน  ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็มจากชั้น 1-7 และจุดเด่นของภูทอกคือสะพานรอบภูทอกตั้งแต่ชั้น 4 เป็นต้นไป  ซึ่งจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของภูทอกได้ทั้งมด
Picture
            ชั้นที่ 1-3 เป็นบันไดเริ่มต้นขึ้นสู่ชั้นที่ของภูทอก  บรรยากาศรอบข้างเป็นป่าต้นไม้สูง  ร่มรื่น  มีโขดหินลานหิน สุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยก สองทาง ทางซ้ายมือ เป็นทางลัดไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลย ซึ่งเป็นทางชันมาก ผ่านซอกหินที่มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ ทางขวามือ เป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ 4


            ชั้นที่ 4 เป็นสะพานเดินรอบเขา  เห็นวิวด้านล่างเป็นเนินเขาเตี้ย ๆ สลับกัน เรียกว่า "ดงชมพู"  ทิศตะวันออกจะเห็นภูลังกา  ส่วนบนชั้นที่ 4 นี้ จะเป็นที่พักของแม่ชีรอบชั้นมีระยะทาง ประมาณ 400 เมตร มีที่พักผ่อนระหว่างทางเป็นระยะ ๆ

            ชั้นที่ 5  หรือชั้นกลาง ถือว่าเป็นชั้นที่สำคัญที่สุด  จะมีศาลาขนาดใหญ่ พระพุทธรูป กุฏิพระ และเป็นที่เก็บสังขารของพระอาจารย์ จวนด้วย พื้นที่สะอาดกว้างขวาง ดูแล้วร่มเย็นมาก เหมาะสำหรับการนั่งสวดมนต์ปฏิบัติธรรมสำหรับนักแสวงบุญ หรือผู้ที่ใฝ่หาความสงบ ตลอดตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายจุด เช่น ถ้ำเหล็กไหล ถ้ำแก้ว ถ้ำฤาษี ฯลฯ มีที่ให้นั่งพักสำหรับความอ่อนล้า ระหว่างทางเดิน เป็นระยะ ถ้าเดินมาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหารอันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะแปลกและ น่าอัศจรรย์ที่สุดคล้าย ๆ กับพระธาตุอินทร์แขวนที่พม่า คือ เป็นหินแยกตัวออกมาจากหินก้อนใหญ่ แต่ไม่ตกลงมา เพราะตั้งอยู่อย่าง ได้ฉากกับพื้นโลกพอดี ปัจจุบันมีสะพานไม้เชื่อมต่อระหว่างสะพานหินกับพุทธวิหาร มองออกไปจะ เห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่าง ชัดเจน และมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่ 6 ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขา


            ชั้นที่ 6 จะเป็นจุดชมวิวิที่สวยที่สุด ตลอดทางเดินจะเป็นหน้าผ
ายื่นออกมาทำให้ในบางครั้งเวลาเดินต้องเบี่ยงตัวออกมาเล็กน้อย โดยแต่ละจุดก็จะมีชื่อของหน้าผาที่แตกต่างกัน เช่น ผาเทพนิมิตร ผาหัวช้าง ผาเทพสถิต เป็นต้น ในช่วงฤดูหนาวจะ มีทะเลหมอก ลอยอยู่รอบ ๆ ยอดเขา ทำให้เหมือนอยู่บนสวรรค์ จากชั้นที่ 6 สู่ชั้นที่ 7 เป็นสะพานไม้เวียนรอบเขายาว 400 เมตร เกาะติดอยู่ริม หน้าผา สูงชันดูน่าหวาดเสียวอันตราย มีความยาว 400 เมตร สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และน่าชมที่สุดของชั้นนี้คือ ปากทางเข้าเมืองพญานาค ซึ่งอยู่หลังพระปางนาคปรก มีจุดให้สังเกตคือ มีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นรอยถลอกที่เกิดจากท้องพญานาคสัมผัส กับหิน และมีบ่อน้ำเล็ก ๆ มีน้ำขังอยู่เกือบตลอดปี

            ชั้นที่ 7 จะมีบันไดไม้พาดขึ้นมา เมื่อเดินขึ้นบันไดผ่านมาแล้วจะเจอทางแยก 2 ทางเพื่อขึ้นไปบนดาดฟ้าชั้น 7 ทางแรกเป็นทางชัน ต้องเกาะ เกี่ยวกิ่งไม้และรากไม้เดินลำบาก แถมยังมีป้ายบอกให้ "ระวังงู" ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอยู่มากบนยอดภูแห่งนี้ด้วย ควรใช้อีกทาง หนึ่งซึ่งเป็น ทางอ้อมต้อง เดินเวียนไปทางขวามือ แต่ก็จะมาบรรจบกันด้านบนชั้น 7 หรือดาดฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม่ทึบธรรมดา มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่










น้ำตกเจ็ดสี จังหวัดบึงกาฬ

               หากจะถามหาพื้นที่ชุ่มน้ำ  สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ  ในจังหวัดบึงกาฬคงต้องเป็นน้ำตก  แต่ในจังหวัดบึงกาฬก็มีน้ำตกอยู่หลายแต่จะขอแนะนำที่นี่เลย  "น้ำตกเจ็ดสี"
Picture
               น้ำตกเจ็ดสี  เดิมเรียกว่า น้ำตกห้วยกะอาม ซึ่งเกิดจากธารน้ำของห้วยกะอาม เป็นน้ำตกจากหน้าผาสูงแล้วเกิดเป็นละอองไอน้ำกระทบกับแสงแดดยามบ่ายทำให้เกิดสีต่างๆ ขึ้น จึงเรียก  น้ำตกเจ็ดสี  น้ำตกเจ็ดสีที่นี่เค้ามีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน เป็นน้ำตกที่สวยงามมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เกิดจากธารน้ำของห้วยกะอามไหลมาตามหน้าผาหินทรายสูงและแผ่กว้างเป็นทางยาว สายน้ำตกกระทบหินเบื้องล่างเกิดเป็นละอองไอน้ำยามเมื่อกระทบกับแสงแดดทำให้เกิดสีต่างๆ ขึ้น จึงเรียกกันว่าน้ำตกเจ็ดสี



              ระยะทางจากตัวเมืองบึงกาฬ ไปน้ำตกเจ็ดสี ประมาณ 53 กิโลเมตร และตั้งอยู่ห่างจากวัดภูทอกเพียง 14 กิโลเมตรเท่านั้น การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับการไปวัดภูทอก ขับเลยตัวภูทอกไปอีกเล็กน้อยเท่านั้นจะมีทางเลี้ยวซ้ายเข้าสู่น้ำตก
               สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี (รับผิดชอบพื้นที่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ) โทร. 0-4232-5406-7

ร้าน Wine Together

               หากจะถามหาร้านอาหารชิลล์ ๆ ในเมืองขอนแก่น อาหารรสเยี่ยม  บรรยากาศสบาย ๆ และมีดนตรีสดเล่นให้ฟังเพลิน ๆ ต้องร้านนี้เลย  "Wine Together"
Picture
               ร้าน "Wine Together" ร้านอาหารบรรยากาศดี  สบาย ๆ ยามเย็น  บรรยากาศร้านโปร่ง  โล่งสบาย  มีโต๊ะให้เลือกนั่ง 2 โซน  คือโซนด้านในห้องแอร์เย็น ๆ  และโซนด้านนอกรับลมเย็นธรรมชาติ  มีดนตรีสดเล่นให้ฟังกันเพลิน ๆ และยังมีพนักงานบริการสาวสวยไว้คอยบริการอีกด้วย






              ในส่วนของอาหารเป็นแนวฟิวชั่น  มีให้อาหารนานาชาติให้บริการ  รสชาติเยี่ยม และยังมีเครื่องไว้คอยบริการอีกด้วย  ที่สำคัญมีเครื่องดื่ม ไวน์  ให้บริการอีกมากมาย









               ร้าน "Wine Together" ตั้งอยู่ถนนมะลิวัลย์ หลังศูนย์ BMW ติดกับร้านตั้งศูนย์ล้อรถ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา  17.30 - 01.00 น. เบอร์โทรศัพท์ 043-243000,086-8578222  หรือ Facebook : Wine Together Restaurant